ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อดีต ผอ.สำนักวัณโรค ชี้ ปัจจุบันยังไม่มีปัจจัยใดกระตุ้นให้วัณโรคแพร่ระบาด 


นพ.ยุทธิชัย เกษตรเจริญ อดีตผู้อำนวยการสำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกับ “The Coverage” ว่า วัณโรคเป็นโรคที่มีอยู่ในสังคมตลอดเวลา กรณีเกิดการแพร่ระบาดจะต้องอาศัยปัจจัยกระตุ้น เช่น สถานการณ์โรค HIV และ ปัญหาแรงงานข้ามชาติ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันยังไม่มีสถานการณ์ใดที่กระตุ้นให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรค

“เชื้อวัณโรคจากประเทศเพื่อนบ้าน นั้นมากกว่าเรา เมื่อคนของเขามาทำงานก็มีโอกาสมาเป็นวัณโรคที่บ้านเรา นอกนั้นก็ไม่น่าจะมีอะไรที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะว่าระบบสาธารณสุขประเทศไทยค่อนข้างจะดี ในการวินิจฉัยและรักษา สามารถใช้สิทธิ 30 บาท สิทธิข้าราชการ และประกันสังคมในการรักษาได้” นพ.ยุทธิชัย กล่าว 

นพ.ยุทธิชัย กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อวัณโรคดื้อยาว่า มีด้วยกัน 2 สาเหตุ 1. ผู้ป่วยเริ่มต้นจากการเป็นวัณโรคชนิดที่ไม่ดื้อยา แต่ไม่ได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หรือไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ 2. ผู้ป่วยที่มีเชื้อดื้อยาในตัวเองอยู่แล้ว เมื่อมีการแพร่กระจายของเชื้อจากผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว อาจะส่งผลให้ผู้ที่ใกล้ชิดสามารถติดเชื้อวัณโรคชนิดดื้อยาได้เช่นกัน 

นพ.ยุทธิชัย กล่าวว่า ในส่วนของการรักษา กรณีป่วยวัณโรคไม่ดื้อยาให้ทานยาติดต่อกัน 6 เดือนก็เสร็จสิ้น แต่ถ้าป่วยเป็นวัณโรคดื้อยา การรักษาจะแตกต่างกัน เช่นตัวยา และระยะเวลาที่ต้องทานยาอย่างน้อยที่สุดคือ 18 เดือน รวมไปถึงราคาของยาที่สูงขึ้นอีกด้วย

“สิ่งที่ประเทศไทยยังทำไม่ได้ หรือทำไม่ได้ดีก็คือการกำกับให้ผู้ป่วยทานยาอย่างถูกต้องครบ 6 เดือน ทั้งนี้ถ้ากระทรวงสาธารณสุข หรือทางกรุงเทพมหานคร สามารถลงทุนในการกำกับการทานยาให้ได้ถูกต้องก็สามารถเอาชนะวัณโรคได้” นพ.ยุทธิชัย กล่าว

นพ.ยุทธิชัย กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์วัณโรคในประเทศไทยดีขึ้น แต่ดีขึ้นช้า โดยเป้าหมายขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปีพศ. 2578 คือ การกำจัดเชื้อวัณโรคให้หมดไปจากโลกมนุษย์ ซึ่งก็ท้าทายประเทศไทยว่าจะสามารถเป็นประเทศแนวหน้าบนเวทีโลกร่วมกับประเทศอื่นในเรื่องการกำจัดวัณโรคได้หรือไม่
 
“แต่ว่าเราก็จะต้องลดปัญหาวัณโรคลงเยอะมาก ต่อปีต้องลดลง ถ้าคิดง่ายๆ ก็ควรจะต้องลดลง 10-12% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด แต่ในทุกวันนี้เราอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี มันไปไม่ถึงเป้าหมายนี้” นพ.ยุทธิชัย กล่าว