ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“แอฟริกาใต้” บนเส้นทางปฏิรูประบบสุขภาพ เพื่อก้าวสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตั้งเป้าอีก 5 ปีประชาชนทุกคนมีหลักประกันสุขภาพคุ้มครอง

แอฟริกาใต้กำลังอยู่บนเส้นทางอันมั่นคงสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ดังที่รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขประสานงานเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันท่ามกลางความร่วมมือจากหลายฝ่ายและแรงสนับสนุนจากข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุข (Presidential Health Compact) เพื่อยกระดับการรักษาพยาบาลของประเทศ

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาประธานาธิบดีไซริล เอ็ม รามาโฟซา (Cyril M Ramaphosa) ของแอฟริกาใต้ประกาศ ข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุขเพื่อยกระดับระบบสุขภาพของแอฟริกาใต้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน’ (Presidential Health Summit Compact – Strengthening the South African health system towards an integrated and unified health systems) ซึ่งกำหนดแผนโรดแมพระยะ 5 ปีในการปฏิรูประบบสุขภาพภายใต้ 9 องค์ประกอบหลักเพื่อเร่งรัดการจัดตั้งหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในแอฟริกาใต้

“วิสัยทัศน์ในการพัฒนาแอฟริกาใต้ให้เติบโตไปด้วยกันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นโดยเฉพาะในด้านสาธารณสุข ดังที่รัฐธรรมนูญมาตรา 27 ระบุไว้ว่าประชาชนทุกคนต้องมีสิทธิเข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาลซึ่งรวมถึงการคลอด มีอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ มีความมั่งคงทางสังคม ตลอดจนได้รับการสนับสนุนทางสังคมอย่างเหมาะสม”

“ในการที่จะทำให้สิทธิดังกล่าวเป็นจริงได้นั้น รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และริเริ่มหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในรูปของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (National Health Insurance) ซึ่งโครงการพัฒนาคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติประสบความสำเร็จ” ประธานาธิบดีแรมโฟซา กล่าว

ประธานาธิบดีและ รมว.สาธารณสุขได้ร่วมลงนามในข้อตกลงสาธารณสุขร่วมกับผู้แทนจากหลายองค์กรซึ่งเห็นพ้องในการพัฒนาระบบสุขภาพใน 9 องค์ประกอบ เพื่อที่จะสามารถขยายการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลสำหรับชาวแอฟริกาใต้ทั้งมวล

ข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุขดังกล่าว เป็นผลจากการหารืออย่างเข้มข้นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นับจากการประชุมสุดยอดว่าด้วยการสาธารณสุขเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ บุคลากรสาธารณสุข แรงงาน กลุ่มธุรกิจ นักวิชาการและนักวิจัย องค์กรอิสระ แพทย์พื้นบ้าน ตลอดจนผู้แทนจากองค์กรสาธารณสุข บนพื้นฐานของการร่วมแรงร่วมใจ และไม่ผลักการปฏิรูประบบสุขภาพให้เป็นภาระของกระทรวงสาธารณสุขแต่ฝ่ายเดียว      

ข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุขได้กำหนดบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในแอฟริกาใต้ เช่น ปรับปรุงแผนพัฒนาคุณภาพ พัฒนาทรัพยากรบุคลสำหรับแผนงานสาธารณสุข พัฒนาการบริหารจัดการงบประมาณสาธารณะ ขยายการเข้าถึงยาที่จำเป็น ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค และใช้เทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อยกระดับมาตรการพัฒนาระบบสุขภาพ

ผลักดันข้อตกลงสู่การปฏิบัติ

ข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุขเป็นเครื่องมือเร่งรัดความคืบหน้าสู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดย นพ.ซเวลินี มกีเซ (Zwelini Mkhize) รมว.สาธารณสุขแอฟริกาใต้ชี้ว่ากระทรวงสาธารณสุขจะประสานร่วมกับองค์กรอื่นเพื่อบรรลุเป้าหมายตามข้อตกลง โดยคาดหวังว่าแนวทางนี้จะเป็นปฐมบทของการปฏิรูประบบสุขภาพ พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันพัฒนาคุณภาพของระบบสาธารณสุข โดยชี้ว่าการร่วมมือกันอย่างจริงจังระหว่างทุกภาคส่วนเป็นพื้นฐานของการยกระดับระบบสุขภาพให้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ด้าน นพ.ไบรอัน ไครอมโบ (Brian Chirombo) รักษาการผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำแอฟริกาใต้คาดหมายว่า ข้อตกลงความรับผิดชอบด้านสาธารณสุขของแอฟริกาใต้จะช่วยให้ระบบสุขภาพของแอฟริกาใต้พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด และช่วยให้ชาวแอฟริกาใต้เข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพได้อย่างทั่วถึง นอกจากยังช่วยให้แอฟริกาใต้คืบหน้าเข้าสู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติอันเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 ว่าด้วยการสาธารณสุข อันได้แก่ ส่งเสริมให้ประชากรทุกกลุ่มอายุมีสุขภาพและสุขภาวะที่ดี

แปลจาก

Accelerating progress towards universal health coverage (UHC) with a health systems reforms. [www.uhc2030.org]