ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำนักงานสถิติแห่งชาติ สรุปตัวเลข "ประชากรแฝง" ประจำปี เผยมากที่สุดใน "กรุงเทพฯ" โดยเฉพาะประชากรแฝงกลางวันที่เข้ามาเรียน-ทำงาน มากกว่า 50% ของทั้งหมด เสนอหน่วยงานต่างๆ ใช้วางแผนนโยบาย จัดบริการสาธารณสุข การศึกษา สาธารณูปโภค


น.ส.สุวรรณี วังกานต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำสรุปผลที่สำคัญประชากรแฝงในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี โดยนำข้อมูลจากการสำรวจการย้ายถิ่นของประชากร ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลในไตรมาสที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) มาทำการประมวลผลเพิ่มเติม เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลประชากรแฝง สำหรับหน่วยงานต่างๆ นำไปใช้ในการวางแผน กำหนดนโยบายสำหรับบริหารจัดการสวัสดิการ ทั้งด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข สาธารณูปโภค ได้อย่างเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ "ประชากรแฝง" ประกอบด้วยประชากรกลุ่มที่เข้ามาทำงานหรือเรียนหนังสือในจังหวัดที่ตนไม่ได้พักอาศัย ลักษณะเช้าไปเย็นกลับ เรียกว่า “ประชากรแฝงกลางวัน” และประชากรกลุ่มที่มาอาศัยอยู่ประจำแต่ไม่มีการย้ายทะเบียนบ้าน หรือไม่มีชื่อในทะเบียนบ้านที่ตนพักอาศัย เรียกว่า “ประชากรแฝงกลางคืน”

สำหรับสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้ ประชากรแฝงในปีนี้มีจำนวน 9.25 ล้านคน คิดเป็น 13.2% ของประชากรทั้งประเทศ (70.09 ล้านคน) ส่วนใหญ่เป็นประชากรแฝงกลางคืน 8.40 ล้านคน และประชากรแฝงกลางวัน 0.85 ล้านคน ซึ่งเข้ามาทำงาน จำนวน 0.61 ล้านคน และเข้ามาเรียนหนังสือ จำนวน 0.24 ล้านคน ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีประชากรแฝงมากที่สุด โดยเฉพาะประชากรแฝงกลางวันที่เข้ามาเรียนและเข้ามาทำงานมีมากถึง 55.3% และ 52.5% ตามลำดับ ส่วนประชากรแฝงกลางคืน มี 32.8%

นอกจากนี้ ประชากรแฝงกลางคืนยังกระจายตัวในจังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และสมุทรสาคร ส่วนประชากรแฝงกลางวันที่เข้ามาทำงาน ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ปทุมธานี และสิงห์บุรี โดยประชากรแฝงกลางวันที่เข้ามาเรียน ได้แก่ จังหวัดนครปฐม พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และขอนแก่น เป็นต้น

น.ส.สุวรรณี ระบุว่า ข้อมูลประชากรแฝงเหล่านี้จะช่วยสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านการศึกษา ด้านการทำงาน ทำให้เกิดปัญหาการจ้างงาน ปัญหาความแออัดตามมา เป็นต้น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องมีการวางแผนการบริหารจัดการให้รองรับกับจำนวนประชากรที่มีอยู่จริงเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาความแออัดของที่อยู่อาศัย ปัญหาด้านการให้บริการสาธารณสุข และการบริหารจัดการสาธารณูปโภคให้เพียงพอต่อความต้องการของประชากร เพื่อลดปัญหาต่างๆ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.nso.go.th