ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.ส่งความสุขผู้มีสิทธิบัตรทองปี 2562 ยกระดับคุ้มครองสิทธิสุขภาพคนไทย เปิดสายด่วน 1330 เพื่อคนพิการการได้ยิน, แชทบอทตอบโต้ปัญหาสิทธิบัตรทองอัตโนมัติ, จับมือ ธกส.เพิ่มจุดลงทะเบียนบัตรทองใน กทม., ลดค่าโทร.สายด่วน 1330 และเพิ่มสิทธิประโยชน์ถุงทวารเทียมและยากดฮอร์โมน

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การดูแลประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) กว่า 48 ล้านคน ให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขเป็นภารกิจสำคัญของการดำเนิน “กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนภายใต้การบริหารกองทุนฯ โดยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้พัฒนาการดำเนินงานในด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารจัดการระบบ คุ้มครองสิทธิ เข้าถึงบริการ และเพิ่มสิทธิประโยชน์สุขภาพที่จำเป็น

ในปี 2562 นี้ สปสช.ได้มุ่งมั่นพัฒนาให้กับประชาชน เพื่อดูแล “คุ้มครองสิทธิ ดูแลสุขภาพประชาชน” ขอส่งความสุขให้ผู้มีสิทธิบัตรทองดังนี้

1.สายด่วน สปสช.1330 สำหรับคนพิการทางการได้ยิน เป็นความร่วมมือ สปสช.และศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย (TTRS) เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิคนพิการทางการได้ยิน สามารถเข้าถึงบริการสายด่วน สปสช. 1330 ในการติดต่อสอบถาม ร้องเรียน ร้องทุกข์การใช้สิทธิบัตรทอง ผ่านล่ามแปลภาษามือ โดยความร่วมมือกับ TTRS สามารถรับบริการผ่านตู้ TTRS ที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ 180 แห่งทั่วประเทศ, เว็บไซต์ศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย www.ttrs.or.th และผ่านมือถือ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน mymmx ttrs video โดยจะส่งข้อมูลมายังสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อดำเนินการ นอกจากนี้ยังสามารถติดต่อด้วยตนเองที่ สปสช. ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โทรติดต่อล่ามของ TTRS เพื่อช่วยแปลให้

2.เปิดแชทบอท (Chatbot) ระบบโต้ตอบอัตโนมัติช่วยตอบปัญหาผู้มีสิทธิบัตรทอง ปัจจุบันเฟซ บุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมีผู้ติดตามกว่า 110,000 ไลค์ และมีอัตราการเข้าถึงโพสต์หรือ Post Reach ประมาณ 770,000 ช่วยอำนวยความสะดวกในการสอบถามข้อมูลเพิ่มขึ้นและสร้างความรู้ความเข้าใจต่อหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยครอบคลุม 3 เรื่องหลักที่ประชาชนมักสอบถามผ่านบริการสายด่วน สปสช. 1330 และเฟซบุ๊ก สปสช.จำนวนมาก คือ ตรวจสอบสิทธิด้วยตนเอง การลงทะเบียนและย้ายสิทธิ และแนะนำวิธีใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพอย่างถูกต้อง ทั้งนี้ประชาชนสามารถใช้งานผ่านเพซบุ๊กสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ คลิกเลือกเมนูส่งข้อความ (Messenger) เลือกหัวข้อที่ต้องการสอบถามได้ทันที ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมการสื่อสารให้ทันกับยุคปัจจุบันที่นิยมใช้ช่องทางผ่านสังคมออนไลน์

3. เปิดหน่วยรับลงทะเบียนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในพื้นที่ กทม. ณ จุดบริการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นการผนึกกำลัง สปสช.เขต 13 กทม.และ ธกส. จากเดิมจุดรับลงทะเบียนมีบริการเฉพาะที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร 19 เขต ซึ่งยังไม่ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและมีข้อจำกัดการให้บริการเฉพาะเวลาราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับการรับบริการของประชาชน จึงได้ขยายจัดตั้งจุดรับลงทะเบียนสิทธิบัตรทองเชิงรุก ณ ธกส. เบื้องต้นนำร่อง 2 แห่ง ดีเดย์เริ่มเปิดบริการจุดแรกแล้วที่ ธกส. สาขาสถานีขนส่งหมอชิต เปิดบริการวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 09:00-16:00 น. และจุดที่ 2 จะเปิดบริการในวันที่ 17 มกราคม 2562 ณ ธกส. สาขาตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ให้บริการทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 09.30 – 16.30 น.

4.ลดราคาค่าโทรศัพท์ สายด่วน สปสช.1330 เหลือครั้งละ 1 บาท เพื่อคุ้มครองสิทธิและลดค่าใช้จ่ายประชาชนโทรสอบถามข้อมูลการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นผลจากการรับฟังความเห็นจากผู้ให้และรับบริการและมอบให้ สปสช.ประสาน กสทช.เพื่อยกเว้นค่าบริการสายด่วน สปสช. 1330 โดยแต่ละปีมีประชาชนติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 จำนวน 686,676 สาย คิดเป็นค่าบริการ 1,463,318 บาท แต่เนื่องจาก สปสปช.ไม่ได้เป็นส่วนราชการ แต่เป็นหน่วยงานของรัฐประเภทองค์การมหาชนไม่สามารถขอยกเว้นค่าบริการได้ ดังนั้น สปสช.จึงขอให้พิจารณาลดหย่อนค่าบริการแทน ซึ่งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 กสทช.ได้อนุมัติให้ลดหย่อนค่าบริการสายด่วน สปสช. 1330 กรณีโทรจากโทรศัพท์เบอร์บ้านลดลงเหลือ 1 บาท/ครั้ง จาก 3 บาท/ครั้ง (ไม่จำกัดเวลา) และโทรจากโทรศัพท์มือถือ ลดลงเหลือ 1 บาท/ 15 นาที จาก 0.42 บาท/นาที มีผลในเดือนมกราคม 2562 นี้ ซึ่งจะทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในการโทรสายด่วน สปสช. 1330 ลดลงถึง 776,642 บาท หรือร้อยละ 53.07 

5.เพิ่มการเข้าถึงบริการที่จำเป็นในปี 2562 ได้แก่ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ “ชุดรองรับสิ่งขับถ่ายจากทวารเทียม” หรือ “ถุงทวารเทียม” คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่จำนวนมาก ผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดรักษาแล้วจะไม่สามารถกลั้นสิ่งขับถ่ายได้ ต้องใส่ถุงทวารเทียมตลอดเวลา แต่เดิมต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ราคาแพง สถานพยาบาลหลายแห่งไม่มีงบจัดซื้อ แต่ด้วย “นวัตกรรมถุงทวารเทียม” จากวัสดุยางพารา ผลงานทีมนักวิจัยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับมอบรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นระดับดีมาก ประจำปี 2560 จากสภาวิจัยแห่งชาติ มีคุณภาพไม่ต่างจากถุงทวารเทียมนำเข้าและราคาถูกกว่า เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ บอร์ด สปสข.ได้บรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ปีงบประมาณ 2562 เริ่ม 1 ตุลาคม 2561 ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ในสิทธิบัตรทอง 54,000 ราย ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น  

นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ยากดฮอร์โมนตามบัญชี ยา จ.(2) จำนวน 2 รายการ คือ ยาลูโปรเรลิน (Leuprorelin) 11.25 mg inj. และยาทริปโทเรลิน (Triptorelin) 11.25 mg inj. ซึ่งเป็นยาเพื่อใช้รักษาภาวะเป็นหนุ่มสาวก่อนวัยในรายที่พัฒนาการของโรคเร็วและหยุดเติบโตก่อนวัย ทำให้ความสูงสุดท้ายน้อยกว่าที่ควรจะเป็นประมาณ 5-10 เซนติเมตร เริ่มในปีงบประมาณ 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน สปสช. โทร. 1330