ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” ชื่นชม บอร์ด สปสช.ชุดใหม่ เสียสละทำหน้าที่ดูแลประชาชน ร่วมหาทางออกสถานการณ์โควิด-19 จากนี้ต้องทำงานหนักร่วมกัน มั่นใจเจตนารมณ์ที่ดีทำสิ่งที่ดีให้บ้านเมือง พร้อมระบุจากมติบอร์ด สปสช. รวม อสม.รับสิทธิช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีเสียหายจากการให้บริการ ช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ อสม.ปฏิบัติหน้าที่เต็มที่ ขณะที่สิทธิประโยชน์คัดกรองโควิด-19 ช่วยป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด    

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วาระพ.ศ. 2563-2567 ซึ่งร่วมประชุมเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมาว่า ภารกิจ บอร์ด สปสช.มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลายครั้งที่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ เป็นการหาทางออกให้กับประชาชน ซึ่งต้องขอแสดงความชื่นชมในความเสียสละทุกท่านที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ โดยจากนี้เราต้องทำงานหนักร่วมกัน มั่นใจว่ากรรมการทุกท่านคงอยู่ทำหน้าที่บอร์ด สปสช. นานกว่าตน เนื่องจากมีวาระทำงาน 4 ปี ขณะที่ตนอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้ว 1 ปี อย่างมากก็อยู่ต่ออีก 3 ปี หากรัฐบาลอยู่ครบเทอม โดยจะทำหน้าที่ประธานบอร์ด สปสช.ให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนวางใจตนและกระทรวงสาธารณสุขที่พร้อมจะนำความเห็นทุกคนที่ต่างมีความหวังดีไปปฏิบัติ       

“ผมมั่นใจว่าด้วยเจตนารมณ์ที่ดีของเราทุกคนจะทำสิ่งที่ดีให้กับบ้านเมือง ขอแสดงความยินดีกับกรรมการทุกท่านที่เข้ามาทำหน้าที่นี้” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ในสถานการณ์โควิด-19 นอกจากบุคลากรทางการแพทย์แล้ว ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) การที่บอร์ด สปสช.มีมติให้ อสม.ร่วมเป็นเจ้าหน้าที่ให้บริการที่สามารถรับการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการให้บริการได้ ทำให้ อสม.ดีใจอย่างมาก ช่วยสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ซึ่ง อสม.ถือเป็นองคาพยพระบบสาธารณสุขไทยและไม่น่าขาดได้ การดูแล อสม.จึงเป็นสิ่งสมควรและที่ผ่านมาได้พยายามเพิ่มสิทธิต่างๆ ให้ อสม.อย่างเต็มที่รวมถึงการซื้อประกันความเสี่ยงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ขณะนี้ซื้อไม่ได้แล้ว เพราะ อสม.เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงก่อน ทำตั้งแต่ขับรถส่งคนไข้ รับยาและส่งยาให้ผู้ป่วย ติดตามเยี่ยมบ้าน และคัดกรองการติดเชื้อ เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามี อสม.บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายคน การอนุมัติเงินช่วยเหลือเบื้องต้นฯ ของบอร์ด สปสช.จึงเป็นคุณูปการกับ อสม.  

ส่วนสิทธิประโยชน์คัดกรองการติดเชื้อโควิด-19 ที่บอร์ด สปสช. ได้อนุมัติก่อนหน้านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยพูดถึงความสำเร็จในการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ได้ จากที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ารายงานผู้ติดเชื้อของไทยไม่มากเพราะมีการตรวจน้อย แต่สิทธิประโยชน์นี้ทำให้มีการตรวจคัดกรองมากขึ้น รวมถึงการตรวจติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงรับเชื้อ ทำให้มั่นใจสถานการณ์การป้องกันและควบคุมมากขึ้น ขณะนี้ส่วนตัวก็ลุ้น เราเพิ่งผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้จำนวนผู้ป่วยใหม่ยังคงที่ รวมถึงผู้ป่วยเสียชีวิต ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายจาก 1,600 คน เหลืออยู่ในโรงพยาบาลไม่ถึง 60 คน หากยังรักษาระดับนี้ไว้ได้ก็จะก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่ง ทั้งนี้รัฐบาลเองก็ไม่สบายใจในการใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการฉุกเฉิน แต่ในการควบคุมการแพร่ระบาด เฉพาะเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคและสาธารณสุขไม่พอ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงด้วย ขอเวลาไม่นานทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ผ่อนคลายมากขึ้น